12 กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง ช่วยมัดใจลูกค้าได้

12 กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง ช่วยมัดใจลูกค้าได้

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจและแบรนด์ในยุคดิจิทัล เพราะเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย สร้างความสนใจ และมัดใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อ Yudniw Marketing เป็นบริษัท Creative Agency และ Brand Consultant ที่มีความเชี่ยวชาญในการวางแผน กลยุทธ์การตลาดในปัจจุบัน หากคุณกำลังมองหา กลยุทธ์ด้านการตลาด ใหม่ ๆ ที่จะช่วยผลักดันธุรกิจและแบรนด์ในโลกออนไลน์ และสนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถติดต่อ Yudniw Marketing ได้แล้ววันนี้

กลยุทธ์การตลาด คืออะไร?

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แผนระดับสูงหรือแนวทางโดยรวมที่องค์กรใช้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดและเป้าหมายธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด เกี่ยวข้องกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การวางตำแหน่งแบรนด์ การสื่อสารคุณค่าที่แตกต่าง รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณให้กับกิจกรรมทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับลูกค้า ตลาด และจุดแข็งของแบรนด์ เพื่อพัฒนา กลยุทธ์ด้านการตลาด ที่เหมาะสมและมีศักยภาพ

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาด?

ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน การมีกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ดีจะช่วยให้:

  • เข้าใจลูกค้าและตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีขึ้น
  • วางตำแหน่งแบรนด์ให้โดดเด่นในตลาด
  • มุ่งเน้นทรัพยากรไปยังกิจกรรมที่มีผลตอบแทนสูงสุด
  • สร้างการรับรู้ในแบรนด์และความภักดีของลูกค้า
  • สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและความได้เปรียบในการแข่งขัน

หากปราศจาก กลยุทธ์การตลาด ที่ชัดเจน ธุรกิจจะเสี่ยงต่อการสูญเสียโอกาสในตลาด ใช้จ่ายงบประมาณไปโดยไร้ประสิทธิภาพ และไม่สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ ดังนั้น การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจยุคปัจจุบัน

12 กลยุทธ์การตลาด ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง?

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเรื่อย ๆ แบรนด์ต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อสร้างการรับรู้ ดึงดูดความสนใจ และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์การตลาดในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย ที่สำคัญคือต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับบริบทของธุรกิจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย

1. กลยุทธ์การตลาดแบบลองฟรีก่อนจ่ายทีหลัง

กลยุทธ์นี้เป็นการเสนอให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าหรือบริการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เช่น การให้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์ฟรีเป็นระยะเวลาจำกัด การแจกของชิมฟรีตามห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดยเป็นการให้ลูกค้าเห็นคุณค่าจริง ๆ ของสินค้าหรือบริการก่อน ซึ่งเมื่อพวกเขาประทับใจก็จะนำไปสู่การซื้อในที่สุด

2. กลยุทธ์แบบขาดแคลน (Scarcity Strategy)

กลยุทธ์การตลาด Marketing Strategy คือ กลยุทธ์แบบขาดแคลนเป็นการสร้างการรับรู้ว่าสินค้ามีจำนวนจำกัดและอาจจะหมดได้ในไม่ช้า เช่น การระบุว่าสินค้าเป็นรุ่นลิมิเต็ด การมีข้อเสนอพิเศษในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นต้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกว่าจะพลาดโอกาสหากไม่ซื้อตอนนี้ ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น

3. กลยุทธ์การตลาดแบบ 8 ด้าน (8P Marketing)

กลยุทธ์การตลาด 8P เป็นการพัฒนาต่อยอดจากส่วนผสมทางการตลาด 4P เดิม โดยประกอบด้วย Product (ผลิตภัณฑ์), Price (ราคา), Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย), Promotion (การส่งเสริมการขาย), People (บุคลากร), Process (กระบวนการ), Physical Evidence (การนำเสนอทางกายภาพ) และ Productivity and Quality (ประสิทธิภาพและคุณภาพ) ซึ่งทั้ง 8 ปัจจัยนี้ควรทำงานร่วมกันเป็นแผนที่ผสมผสานอย่างดีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการตลาด

4. กลยุทธ์การตลาดเสนอขายสินค้าหรือบริการเดิม (Upsell)

Upsell คือ การพยายามขายสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่ซื้ออยู่แล้ว เช่น การเสนอเมนูไซส์ใหญ่ขึ้น การแนะนำแพ็กเกจอัปเกรดเมื่อซื้อสินค้าหลัก เป็นวิธีที่เพิ่มมูลค่าต่อลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นจากฐานลูกค้าเดิม

5. กลยุทธ์ทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (Search Engine Marketing)

Search Engine Marketing เป็นการทำการตลาดออนไลน์ผ่านการปรากฎบนหน้าแรกของ Search Engine อย่าง Google ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบ Organic ด้วยการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine (SEO) และแบบจ่ายเงินต่อคลิกโฆษณา (PPC) ซึ่งช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง และสร้างการเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

6. กลยุทธ์การตลาดแบบกองโจร (Guerrilla Marketing)

Guerrilla Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และความแปลกใหม่ในการสื่อสารกับผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้และความประทับใจที่ไม่คาดคิด โดยมักใช้งบประมาณน้อยแต่ใช้ความกล้าและความฉลาดในการดำเนินกลยุทธ์แทน เช่น การทำสื่อ ambient ตามที่สาธารณะ การทำ flash mob การทำ PR Stunt ที่สร้างกระแส เป็นต้น วิธีนี้ทำให้แบรนด์สร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ที่โดดเด่นได้อย่างรวดเร็ว

7. กลยุทธ์การตลาดแบบร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรือบุคคล (Collaboration Marketing)

Collaboration Marketing เป็นการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อสร้างแคมเปญการตลาดร่วมกัน การผสานแบรนด์เข้าด้วยกันจะช่วยเพิ่มการรับรู้และขยายฐานลูกค้าเดิมไปสู่กลุ่มใหม่ ๆ โดยใช้จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่น การทำผลิตภัณฑ์พิเศษร่วมกัน การจัดอีเวนท์ การโปรโมทข้ามแบรนด์ เป็นต้น การร่วมมือนี้ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ Win-win และประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย

8. ทำการตลาดด้วยการพูดต่อหน้าสาธารณชน (Public Speaking)

การเป็นวิทยากรหรือนักพูดในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานสัมมนา เวิร์กชอป งานอีเวนต์ หรือคอนเทนต์ออนไลน์ ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เพิ่มการรับรู้ในแบรนด์และสร้างความเชื่อถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้นำแบรนด์สามารถให้ความรู้ ความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ แชร์เรื่องราวของธุรกิจไปยังผู้ฟังจำนวนมาก ซึ่งจะสร้างการจดจำและความประทับใจให้กับแบรนด์ได้ในที่สุด

9. กลยุทธ์การตลาดโดยตัวแทนในการช่วยขายสินค้าหรือบริการ (Affiliate Marketing)

Affiliate Marketing คือ การให้บุคคลภายนอกมาช่วยขายสินค้าหรือบริการของแบรนด์ โดยให้ค่าคอมมิชชันเมื่อเกิดการซื้อสินค้าจากลิงค์แนะนำของพวกเขา ซึ่งมักจะเป็นบล็อกเกอร์ นักรีวิว หรือเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และเพิ่มยอดขายได้โดยไม่ต้องใช้งบโฆษณามากนัก เพราะจ่ายค่าคอมมิชชันเมื่อเกิดการขายจริงเท่านั้น

10. กลยุทธ์การตลาดโดยผู้มีอิทธิพล (Influencer Marketing)

Influencer Marketing เป็นการทำการตลาดโดยการร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมากและมีความน่าเชื่อถือในกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจ้างเซเลบหรือไมโครอินฟลูเอนเซอร์ให้รีวิว แนะนำ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้ ความน่าเชื่อถือ และส่งเสริมให้เกิดการซื้อได้มากขึ้น การตลาดแบบนี้มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเลือกอินฟลูเอนเซอร์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์

11. การตลาดแบบจัดอีเว้นท์ (Event Marketing)

Event Marketing คือ การจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ที่สอดคล้องกับแบรนด์เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่นการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ งานสัมมนา งานแถลงข่าว งานกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นต้น การได้เจอและมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์โดยตรงจะช่วยสร้างความผูกพันและการจดจำที่ดีไปอีกนาน อีกทั้งกิจกรรมบางอย่างก็ยังช่วยสร้างกระแสและเนื้อหาที่กระจายต่อในโลกออนไลน์ได้อีกด้วย

12. กลยุทธ์การตลาดรูปแบบของอีเมล (Email Marketing)

12 กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง

Email Marketing เป็นการส่งข้อความการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายผ่านทางอีเมลโดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้ เช่น การส่งข่าวสาร โปรโมชั่น การแนะนำสินค้าใหม่ หรือคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น โดยในปัจจุบันสามารถทำ Email Marketing ได้อย่างอัตโนมัติและเป็นส่วนตัวตามพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าแต่ละราย ทำให้สื่อสารได้ตรงจุดและเพิ่มโอกาสในการซื้อได้มากขึ้น

แนะนำ 8 กลยุทธ์ทางการตลาด ออนไลน์ที่แบรนด์ควรรู้ ในยุคดิจิทัล

ในยุคที่ทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความสำคัญ ต่อไปนี้เป็น 8 กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ ที่นักการตลาดควรนำไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์

1. กลยุทธ์การตลาดผ่านผู้มีอิทธิพลบนสื่อ (Influencer Marketing)

การร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมตสินค้าและแบรนด์ เช่น การจ้างเซเลบหรือไมโครอินฟลูเอนเซอร์ในการรีวิว การไลฟ์ หรืออัปเดตไลฟ์สไตล์การใช้งานสินค้า จะช่วยขยายการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย

2. กลยุทธ์การตลาดผ่านการยิงแอดเฟซบุ๊ก (Facebook Ads)

Facebook เป็นช่องทางโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงฐานผู้ใช้งานจำนวนมาก สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทั้งตามที่อยู่ การศึกษา ความสนใจ และพฤติกรรม ทำให้ส่งสารได้ตรงจุดและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น

3. กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)

โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube เป็นต้น ถือเป็นช่องทางสำคัญที่แบรนด์จะต้องมี brand presence และใช้ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น โพสต์คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ มีประโยชน์ และเชื่อมโยงกับแบรนด์ จัดกิจกรรมหรือแคมเปญ รวมถึงตอบคำถามและคอมเมนต์จากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ

4. กลยุทธ์การตลาดการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM)

CRM หรือ Customer Relationship Management เป็นกระบวนการในการสร้าง รักษา และเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร เพื่อเข้าใจความต้องการ พฤติกรรม และมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกช่องทาง ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาลูกค้าและเพิ่มยอดขายในระยะยาว

5. การตลาดเนื้อหา (Content Marketing)

Content Marketing เป็นการสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ที่มีคุณค่า ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญ และดึงดูดลูกค้าผ่านเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เช่น บทความ บล็อก วิดีโอ อินโฟกราฟิก เป็นต้น การตลาดแบบนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและนำมาซึ่งการขายได้ในที่สุด

6. การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing)

การส่งจดหมายข่าว โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษไปยังอีเมลของลูกค้าโดยตรง เพื่อแจ้งข่าวสาร กระตุ้นให้ซื้อซ้ำ หรือกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง ซึ่งสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายและปรับแต่งเนื้อหาอีเมลได้อย่างเฉพาะเจาะจงกับแต่ละกลุ่ม ทำให้เพิ่มอัตราการคลิกและยอดขายได้ดี

7. กลยุทธ์การตลาดผ่าน Search Engine (SEO Marketing)

SEO คือ การทำเว็บไซต์ให้ถูกค้นหาเจอง่ายขึ้นบน Search Engine โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google ด้วยการเพิ่มคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่มีคุณภาพ รูปภาพ และลิงก์ต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งจะนำไปสู่การคลิกเข้าชมเว็บไซต์และยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้จากลูกค้าที่ค้นหาสินค้าและบริการนั้นๆ

8. การโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (Pay-Per-Click – PPC Advertising)

PPC เป็นรูปแบบการโฆษณาที่ทางแบรนด์จ่ายเงินเมื่อมีผู้ใช้งานคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์หรือแลนดิงเพจของแบรนด์ ผ่านการแสดงผลโฆษณาบนหน้า Search Engine เช่น Google Ads และในเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการรับรู้แบรนด์และเพิ่มยอดขายในระยะเวลาอันสั้น

การกำหนดกลยุทธ์การตลาด ดีอย่างไร?

การกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจและแบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น:

  • เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ความต้องการ และพฤติกรรมได้ลึกซึ้งขึ้น
  • วางตำแหน่งแบรนด์ให้โดดเด่นและเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด
  • สื่อสารและส่งมอบคุณค่าที่มีเอกลักษณ์ให้กับลูกค้าได้
  • กระจายทรัพยากรและงบประมาณไปในทิศทางที่ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด
  • สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว

นอกจากนี้ การกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดยังช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว เพื่อคว้าโอกาสใหม่ ๆ และรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้ทันท่วงที

หากสนใจทำการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อปรึกษากลยุทธ์ จาก Yudniw ได้แล้ววันนี้

Yudniw Marketing เป็นบริษัท Creative Agency และ Brand Consultant ชั้นนำ ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจและตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เราพร้อมช่วยสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางการตลาด และแคมเปญการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย การออกแบบ Content การทำ Influencer Marketing การทำโฆษณาออนไลน์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ฯลฯ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว

สนใจบริการวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดและการทำการตลาดออนไลน์กับเรา สามารถติดต่อเราได้ทุกช่องทางเพื่อรับคำปรึกษาฟรี เราพร้อมยกระดับธุรกิจของคุณให้ไปได้ไกลกว่าที่เคย ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

สรุป

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจและแบรนด์ไปสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล การวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ชาญฉลาดจะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้า สร้างการรับรู้ในแบรนด์ และผลักดันยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยกลยุทธ์ต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Influencer Marketing, Social Media Marketing, Content Marketing, CRM และอื่น ๆ อีกมากมาย Yudniw Marketing มีแพ็กเกจดูแลด้าน Tiktok และ Facebook พร้อมเป็นหุ้นส่วนทางการตลาดและที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การตลาดของคุณ เพื่อนำธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในโลกยุคใหม่นี้ ติดต่อเราได้แล้ววันนี้

คำถามที่พบบ่อย

กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่มีอะไรบ้าง?

กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ Influencer Marketing, Social Media Marketing, Content Marketing, SEO, PPC, Email Marketing, CRM เป็นต้น ซึ่งเป็นการตลาดที่เน้นการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้ามีอะไรบ้าง?

กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยดึงดูดลูกค้า เช่น การทำโปรโมชันพิเศษ การแจกของแถม การให้ทดลองใช้สินค้าฟรี การสร้างความตื่นเต้นด้วยสินค้ารุ่น Limited Edition การใช้บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น การจัดอีเวนต์ให้ลูกค้าได้สัมผัสตัวสินค้าจริง รวมถึงการทำ Content ให้ความรู้-สร้างคุณค่าแก่ลูกค้าด้วย

ตัวอย่างของกลยุทธ์การตลาด 8P มีอะไรบ้าง?

8P ได้แก่ Product (การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้า), Price (การตั้งราคาที่เหมาะสม), Place (การเลือกช่องทางขายที่เข้าถึงง่าย), Promotion (การทำโปรโมชันดึงดูดใจ), People (การอบรมพนักงานให้บริการดี), Physical Evidence (การสร้างหลักฐานทางกายภาพให้ประทับใจ) Process (การออกแบบกระบวนการขายที่ราบรื่น) Productivity (การวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง)

Market Trend มีอะไรบ้าง?

เทรนด์การตลาดที่กำลังมาแรง ได้แก่ การทำ Data-Driven Marketing ที่ใช้ข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึกพฤติกรรมลูกค้า, การทำ Video Marketing และ Live Streaming เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วม, การขายผ่าน E-Commerce และ Social Commerce โดยเฉพาะบน Mobile, การมุ่งเน้นประสบการณ์และการบริการที่เป็นเลิศ, การใส่ใจความยั่งยืนและธุรกิจเพื่อสังคมมากขึ้น เป็นต้น

Share :

Scroll to Top