การทำการตลาดบน TikTok: 10 กลยุทธ์ สำหรับกระตุ้นยอดขาย

การทำการตลาดบน TikTok: กลยุทธ์ทรงพลังสำหรับแบรนด์ในยุคดิจิทัล

การทำการตลาดบน TikTok กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยผู้ใช้งานกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกและฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการสร้างคอนเทนต์ไวรัล แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ แต่ยังกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อคุณเข้าใจวิธีการทำ Marketing TikTok ที่ถูกต้อง

TikTok Marketing คืออะไร?

TikTok Marketing คืออะไร? คือ การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok เพื่อทำการตลาดและโปรโมทสินค้าหรือบริการ โดยการวางแผนและคิดค้นกลยุทธ์ด้านการตลาดดิจิทัลเพื่อสร้างการมองเห็น เพิ่มการรับรู้ และขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ เรียกได้ว่า TikTok for Business คืออะไร นั่นก็คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มนี้

ในปัจจุบัน การทำการตลาดบน TikTok ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงที่สุด มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากถึง 1,000 ล้านคนต่อเดือน และเป็นแอปพลิเคชันที่คนใช้เวลานานที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยถึง 34 ชั่วโมงต่อเดือน ซึ่งมากกว่า YouTube ที่มีผู้ใช้งานใช้เวลาเฉลี่ย 28.5 ชั่วโมงต่อเดือน

เมื่อ TikTok มีผู้ใช้งานจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การทำการตลาดบน TikTok กลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง

ทำไมต้องทำการตลาดบน TikTok?

ทำการตลาดบน TikTok ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลหลายประการที่น่าสนใจ:

1. ผู้ใช้งานจำนวนมาก: มีผู้ใช้งานมากกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก และในประเทศไทยมีผู้ใช้มากถึง 40.28 ล้านคน
2. การเข้าถึงกว้าง: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials
3. อัลกอริทึมที่ทรงพลัง: ระบบของ TikTok ช่วยให้คอนเทนต์สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่น
4. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป: 90% ของผู้บริโภคชอบรับชมวิดีโอสั้นแนวตั้ง และ 72% เลือกศึกษาข้อมูลของแบรนด์ผ่านรูปแบบวิดีโอ
5. ศูนย์รวมเทรนด์: เป็นแหล่งกำเนิดเทรนด์และกระแสใหม่ๆ ที่สามารถสร้าง คอนเทนต์ปังๆ ใน TikTok ได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า 40% ของผู้ใช้งานสามารถจดจำแบรนด์ได้จาก TikTok ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่อาจมองข้าม และปัจจุบันกลุ่มคน Gen Z หันมาใช้ TikTok ในการค้นหาข้อมูลแทนการใช้ Google แล้ว ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นช่องทางสำคัญสำหรับนักการตลาดที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่

กลุ่มผู้ใช้งาน TikTok คือใคร?

เมื่อวางแผนทำการตลาดบน TikTok ควรเข้าใจกลุ่มผู้ใช้งานหลักของแพลตฟอร์มนี้:

• กลุ่มอายุ 18-24 ปี (Gen Z): 34.9% – กลุ่มผู้ใช้งานหลัก
• กลุ่มอายุ 25-34 ปี (Millennials): 28.2%
• กลุ่มอายุ 13-17 ปี: 14.4%
• กลุ่มอายุ 35-44 ปี: 12.8%
• กลุ่มอายุ 45-54 ปี: 6.3%
• กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป: 3.4%

กลุ่ม Gen Z และ Millennials เป็นกลุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี ชอบติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ไม่ชอบเสียเวลารอคอย และชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์ที่สั้น กระชับ และให้ความบันเทิง นี่คือเหตุผลที่พวกเขากลายเป็นกลุ่มหลักบน TikTok

อย่างที่ Jo Cronk ประธานบริษัทด้านการตลาด Whalar กล่าวไว้ว่า “TikTok คือ TV ของคน Gen Z” และ “ทุกวันนี้ถ้าคุณอยากทำให้แบรนด์ของคุณ สินค้าของคุณ บริการของคุณได้รับความสนใจจากคน Gen Z การทำการตลาด TikTok เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย”

การตลาด TikTok ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร?

TikTok มีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ หลายประการ:

1. คอนเทนต์แบบคลิปสั้น: คอนเทนต์บน TikTok เป็นวิดีโอสั้นๆ ตั้งแต่ 15 วินาทีไปจนถึง 60 วินาที ทำให้นักการตลาดต้องนำเสนอเนื้อหาให้กระชับ ตรงประเด็น และน่าสนใจภายในเวลาอันจำกัด
2. เข้าถึงผู้ใช้งานได้จำนวนมาก: ด้วยอัลกอริทึมที่ไม่ได้จำกัดการเข้าถึงเหมือนแพลตฟอร์มอื่น ทำให้คอนเทนต์มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากกว่า ตามข้อมูลจาก Sprout Social พบว่าอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) บน TikTok สูงกว่า Instagram ถึง 3 เท่า
3. โดดเด่นด้าน Influencer Marketing: TikTok เป็นแหล่งรวมของเหล่าครีเอเตอร์หลากหลายสไตล์ ทำให้การใช้ Influencer Marketing มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถเลือกใช้ Influencer ได้หลายระดับ:
   • Nano Influencer: มีผู้ติดตาม 1,000-10,000 คน
   • Micro Influencer: มีผู้ติดตาม 10,000-50,000 คน
   • Mid-Tier Influencer: มีผู้ติดตาม 50,000-100,000 คน
   • Macro Influencer: มีผู้ติดตาม 100,000-1,000,000 คน
   • Mega Influencer: มีผู้ติดตาม 1,000,000 คนขึ้นไป
4. ความรวดเร็วของเทรนด์: เทรนด์บน TikTok เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักการตลาดต้องปรับตัวและติดตามเทรนด์อยู่เสมอเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ทันสมัย
5. เครื่องมือสร้างสรรค์หลากหลาย: TikTok มีเครื่องมือมากมายสำหรับการสร้างคอนเทนต์ เช่น ฟิลเตอร์ เอฟเฟ็กต์ เสียงเพลง ที่ช่วยให้การสร้างคอนเทนต์ทำได้ง่ายและน่าสนใจ

10 กลยุทธ์การตลาด TikTok สำหรับกระตุ้นยอดขาย

กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ บน TikTok มีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองพิจารณา Marketing TikTok ด้วยกลยุทธ์ต่อไปนี้:

1. การใช้ Hashtag อย่างมีประสิทธิภาพ

Hashtag มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มการมองเห็นของคอนเทนต์บน TikTok โดยทำหน้าที่จัดกลุ่มเนื้อหาเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ควรเลือกใช้ Hashtag ที่:

• เกี่ยวข้องกับเนื้อหาคอนเทนต์
• มีความกระชับและจดจำง่าย
• อยู่ในกระแสนิยม (สามารถตรวจสอบได้จากเมนู Discover)

นอกจากนี้ การสร้าง Hashtag Challenge สามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำเช่นนี้จะช่วยให้การทำการตลาดบน TikTok ของคุณได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น

2. ติดตามและปรับตัวตามเทรนด์ปัจจุบัน

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เทรนด์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การติดตามและปรับตัวตาม Current TikTok Trends จึงมีความสำคัญ ควรเข้าไปดูที่เมนู Discover เพื่อตรวจสอบเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอ และสร้างคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับเทรนด์เหล่านั้น

3. ร่วมมือกับ Influencer ที่เหมาะสม

Influencer Marketing เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงบน TikTok เพราะผู้ติดตามมักเชื่อถือรีวิวจาก Influencer มากกว่าการโฆษณาแบบทั่วไป ควรเลือก Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และสร้างคอนเทนต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นการขายตรงจนเกินไป

4. สร้างการมีส่วนร่วมผ่านการตอบคอมเมนต์

การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานผ่านคอมเมนต์ช่วยสร้างความผูกพันกับแบรนด์ ควรตอบคอมเมนต์อย่างสม่ำเสมอและทันท่วงที เพื่อสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์

5. โพสต์คอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ

เนื่องจากมีคอนเทนต์มากมายบน TikTok การโพสต์อย่างสม่ำเสมอช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ควรวางแผนการโพสต์ประมาณ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรืออย่างน้อยวันละ 1 โพสต์ และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้มีคนเห็นมากที่สุด

เวลาที่เหมาะกับการโพสต์บน TikTok มีดังนี้:

• วันจันทร์: 6:00 น., 10:00 น., 22:00 น.
• วันอังคาร: 02:00 น., 04:00 น., 09:00 น.
• วันพุธ: 7:00 น., 8:00 น., 23:00 น.
• วันพฤหัสบดี: 09:00 น., 12:00 น., 19:00 น.
• วันศุกร์: 5:00 น., 13:00 น., 15:00 น.
• วันเสาร์: 11:00 น., 19:00 น., 20:00 น.
• วันอาทิตย์: 7:00 น., 8:00 น., 16:00 น.

6. ใช้ TikTok Effect สร้างความน่าสนใจ

การใช้เอฟเฟกต์ต่างๆ ของ TikTok ช่วยทำให้คอนเทนต์ดูสนุกและน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์แบบ 2D, 3D หรือ AR หากแบรนด์สามารถสร้างเอฟเฟกต์ของตัวเองที่น่าใช้งานได้ ก็จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการรับรู้แบรนด์ได้มากขึ้น

7. สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย

ผู้ใช้งาน TikTok มักมีช่วงความสนใจสั้น ดังนั้นคอนเทนต์ต้องสามารถดึงดูดความสนใจได้ภายใน 3 วินาทีแรก เพื่อสร้าง คอนเทนต์ปังๆ ใน TikTok เนื้อหาควรสั้น กระชับ ได้ใจความ และมอบทั้งความบันเทิงและข้อมูลที่มีคุณค่า การทำเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ชมหยุดนิ้วเพื่อดูคอนเทนต์ของคุณจนจบ แทนที่จะเลื่อนผ่านไป

8. ลงทุนใน TikTok Ads

การโฆษณาบน TikTok สามารถเพิ่มการเข้าถึงและสร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นส่วนสำคัญของ กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ โดยมีรูปแบบโฆษณาให้เลือกหลากหลาย เช่น In-Feed Ads, Brand Takeover, TopView และอื่นๆ ซึ่งจะกล่าวถึงในรายละเอียดต่อไป

9. วิเคราะห์ประสิทธิภาพด้วย TikTok Pixel

TikTok Pixel ช่วยติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานเพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้:

• วัดผลทางการตลาดได้แม่นยำ
• เพิ่ม ROI จากการทำโฆษณา
• เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น

10. สร้าง Branded Content ที่มีคุณค่า

แทนที่จะทำการขายตรง ควรสร้างคอนเทนต์ที่นำเสนอคุณค่าและประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ เน้นการเล่าเรื่องราว (Storytelling) ที่สร้างอารมณ์ร่วมและกระตุ้นการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค

สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการทำการตลาดบน TikTok

การทำการตลาดบน TikTok ให้มีประสิทธิภาพ มีทั้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำดังนี้:

สิ่งที่ควรทำ

1. ลงคลิปให้สม่ำเสมอ: สร้างตารางการโพสต์ที่ชัดเจนเพื่อให้อัลกอริทึมจดจำและผลักดันคอนเทนต์ของคุณ
2. ใช้เพลงที่กำลังเป็นไวรัล: การใช้เพลงที่กำลังเป็นที่นิยมช่วยให้คอนเทนต์มีโอกาสถูกแสดงบนฟีดมากขึ้น
3. ใช้ Hashtag ที่อยู่ในเทรนด์: ติดตามและใช้ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์และกำลังเป็นที่นิยม
4. ใช้ TikTok Ads เพิ่มการเข้าถึง: โฆษณาบน TikTok ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและโอกาสในการแปลงเป็นยอดขาย

สิ่งที่ไม่ควรทำ

1. หลีกเลี่ยงภาพความรุนแรง: TikTok มีมาตรฐานชุมชนที่เคร่งครัด ภาพความรุนแรงทุกรูปแบบมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแบน
2. ไม่ควรใส่ Hashtag มากเกินไป: การใส่ Hashtag จำนวนมากเกินไปอาจทำให้คอนเทนต์ดูเป็นสแปมและไม่น่าเชื่อถือ
3. ระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว: การแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นอาจละเมิด PDPA และนำไปสู่การปิดบัญชี
4. หลีกเลี่ยงเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง: คอนเทนต์ที่ปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังหรือแสดงอากัปกิริยาข่มขู่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปิดกั้น
5. หลีกเลี่ยงการโฆษณาเกินจริง: คำพูดหรือคีย์เวิร์ดที่โฆษณาเกินจริงอาจทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือและอาจถูกจัดการโดยอัลกอริทึม

ข้อดีของการทำการตลาดบน TikTok

การ ทำการตลาดบน TikTok มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตในโลกดิจิทัล โดยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ Marketing TikTok มีจุดเด่นที่ชัดเจนดังนี้:

1. เพิ่มโอกาสเข้าถึงคนรุ่นใหม่: ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่มีกำลังซื้อและพร้อมทดลองสิ่งใหม่ๆ
2. นำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็ว: รูปแบบวิดีโอสั้นทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างกระชับและตรงประเด็น
3. สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า: การใช้ Influencer และการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นธรรมชาติช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
4. เลือกรูปแบบโฆษณาได้หลากหลาย: TikTok มีตัวเลือกในการทำโฆษณาที่หลากหลาย ตั้งแต่ In-Feed Ads ไปจนถึง Branded Hashtag Challenge
5. โอกาสในการไปไวรัล: อัลกอริทึมของ TikTok เอื้อต่อการที่คอนเทนต์จะเกิดการแชร์อย่างกว้างขวางหากมีคุณภาพดี

ด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้การทำการตลาดบน TikTok กลายเป็นช่องทางที่แบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามรายงานจาก Sprout Social พบว่าแบรนด์ที่ใช้ TikTok Marketing สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ

รูปแบบโฆษณาบน TikTok

TikTok มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด สำหรับแบรนด์ที่ต้องการทำ Marketing TikTok อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมดังนี้:

1. In-Feed Ads: โฆษณาที่แสดงในฟีดปกติของผู้ใช้ คล้ายกับโฆษณาใน Instagram Stories
2. Brand Takeover: โฆษณาแบบเต็มหน้าจอที่แสดงทันทีเมื่อผู้ใช้เปิดแอป มีความยาวไม่เกิน 5 วินาที
3. TopView: โฆษณาที่แสดงเป็นคลิปแรกในฟีดหลัก มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที
4. Branded Hashtag Challenge: โฆษณาที่แสดงบนหน้า Discovery เชิญชวนให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมผ่าน Hashtag
5. Branded Effects: สร้างการมีส่วนร่วมด้วยเอฟเฟ็กต์หรือเสียงที่เป็นของแบรนด์โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมอย่าง:

• Affiliate: นำลิงก์สินค้าจาก TikTok Shop หรือเว็บไซต์ภายนอกมาเพิ่มไว้กับวิดีโอ
• ติดตะกร้า: อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีจากวิดีโอทั้งคอนเทนต์ทั่วไปและโฆษณา

ทำไมควรใช้บริการเอเจนซี่ในการทำ TikTok Ads

แม้ว่าการยิงโฆษณา TikTok Ads จะเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่การทำงานร่วมกับเอเจนซี่มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้การทำการตลาดบน TikTok ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า:

1. เข้าถึงและเข้าใจธุรกิจได้ลึกซึ้ง: เอเจนซี่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์และเข้าใจธุรกิจหลากหลายประเภท สามารถเข้าใจจุดแข็งและจุดขายของธุรกิจคุณได้ดี
2. ดึงเอกลักษณ์และจุดขายของแบรนด์: ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ เอเจนซี่สามารถช่วยดึงจุดเด่นและนำเสนอแบรนด์ให้โดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
3. สร้างสรรค์ไอเดียให้เป็นที่จดจำ: ทีมครีเอทีฟมืออาชีพสามารถสร้างไอเดียที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำในใจผู้บริโภค
4. ผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูง: เอเจนซี่มีทีมโปรดักชันมืออาชีพที่สามารถผลิต คอนเทนต์ปังๆ ใน TikTok ที่มีคุณภาพสูง น่าสนใจ และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
5. สื่อสารได้ตรงจุด: ด้วยประสบการณ์ด้านการสื่อสารการตลาด เอเจนซี่สามารถส่งสารที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์: เอเจนซี่สามารถทำรายงานและวิเคราะห์ผลลัพธ์แบบเรียลไทม์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และการทำงานอย่างทันท่วงที

บริการด้าน TikTok Marketing ของเรา

บริษัท “หยุดนิ้ว” (YudNiw Marketing) ให้บริการด้าน TikTok Marketing แบบครบวงจรเพื่อช่วยให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการสร้าง คอนเทนต์ปังๆ ใน TikTok เรายินดีให้บริการดังต่อไปนี้:

1. วางกลยุทธ์ TikTok Marketing: วิเคราะห์ธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายเพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจ เราช่วยคุณเข้าใจว่า TikTok for Business คืออะไร และควรใช้งานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. ผลิตคอนเทนต์คุณภาพ: สร้างสรรค์และผลิตคอนเทนต์ที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และมีโอกาสไปไวรัลสูง
3. บริหารจัดการแคมเปญ TikTok Ads: วางแผน ออกแบบ และบริหารแคมเปญโฆษณาบน TikTok ให้ได้ผลลัพธ์คุ้มค่าที่สุด
4. ดำเนินการ Influencer Marketing: คัดเลือกและประสานงานกับ Influencer ที่เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
5. สร้าง Hashtag Challenge: ออกแบบและดำเนินการ Hashtag Challenge ที่สร้างการมีส่วนร่วมและการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
6. บริหารจัดการบัญชี TikTok: ดูแลและจัดการบัญชี TikTok ของแบรนด์ รวมถึงการโพสต์คอนเทนต์และตอบคอมเมนต์อย่างสม่ำเสมอ
7. วิเคราะห์และรายงานผล: จัดทำรายงานวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการทำการตลาดบน TikTok พร้อมเสนอแนะแนวทางการปรับปรุง

นอกจากนี้ เรายังมี แพ็กเกจพิเศษสำหรับการทำการตลาดบน Facebook และ TikTok แบบครบวงจร ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น สำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ เรายังมี บริการดูแลช่อง YouTube อีกด้วย เพื่อให้แบรนด์ของคุณมีครบทุกแพลตฟอร์มหลัก

สรุป

กา ทำการตลาดบน TikTok เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในยุคดิจิทัลปัจจุบัน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมหาศาล โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่มีกำลังซื้อและอิทธิพลในตลาด แพลตฟอร์มนี้จึงเป็นช่องทางที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Marketing TikTok มีความโดดเด่นด้วยรูปแบบคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่เข้าถึงง่าย เครื่องมือสร้างสรรค์หลากหลาย และอัลกอริทึมที่เอื้อต่อการสร้างไวรัล นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด

การทำการตลาดบน TikTok ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความเข้าใจในแพลตฟอร์ม การติดตามเทรนด์อย่างสม่ำเสมอ การสร้าง คอนเทนต์ปังๆ ใน TikTok ที่มีคุณภาพและน่าสนใจ รวมถึงการวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

Yudniw Marketing พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำการตลาด TikTok ของคุณ ด้วยทีมงานมืออาชีพและประสบการณ์ในการสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ เรายินดีช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจบน TikTok for Business แพลตฟอร์มยอดนิยมนี้ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาและวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

TikTok Marketing คืออะไร?

TikTok Marketing คือ การใช้แพลตฟอร์ม TikTok เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ สร้างการรับรู้แบรนด์ และเพิ่มยอดขาย โดยใช้เครื่องมือต่างๆ บนแพลตฟอร์ม เช่น การสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้น การใช้ Influencer การทำ Hashtag Challenge และการยิงโฆษณาผ่าน TikTok Ads ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

การเชื่อมบัญชี TikTok ของเรากับลูกค้า ทำอย่างไร?

การเชื่อมบัญชี TikTok ของคุณกับบัญชีของลูกค้าเพื่อจัดการการตลาดให้สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

1. ใช้ TikTok Business Center: ลูกค้าต้องสร้าง Business Center และเชิญคุณเป็น Partner
   • ลูกค้าเข้าไปที่ business.tiktok.com
   • เลือก “Business Center” และทำการสร้าง Business Center ใหม่
   • เลือก “Partners” > “Add Partner” และเพิ่มอีเมลที่คุณใช้กับบัญชี TikTok ของคุณ
   • คุณจะได้รับการเชิญและต้องยอมรับเพื่อเข้าถึงบัญชีของลูกค้า
2. การให้สิทธิ์ผ่าน TikTok Ads Manager:
   • ลูกค้าเข้าสู่ TikTok Ads Manager
   • ไปที่ “Settings” > “Ad Account” > “User Management”
   • คลิก “Add User” และใส่อีเมลของคุณพร้อมกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง
   • ยืนยันการเชิญและคุณจะได้รับอีเมลแจ้งเตือน
3. แชร์ข้อมูล Creator Marketplace (สำหรับการทำงานกับ Influencer):
   • ลูกค้าต้องเพิ่มคุณเป็น Agency Partner ใน Creator Marketplace
   • เข้าที่ “Settings” > “Agency Management” ใน Creator Marketplace
   • เพิ่มบัญชีของคุณและกำหนดสิทธิ์ในการจัดการแคมเปญกับ Influencer

ที่ Yudniw Marketing เราดูแลกระบวนการทั้งหมดนี้ให้ลูกค้า โดยประสานงานและให้คำแนะนำในทุกขั้นตอนเพื่อให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบรื่น

วิเคราะห์ตลาด TikTok ทำอย่างไร?

การวิเคราะห์ตลาดบน TikTok เพื่อวางแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพสามารถทำได้ดังนี้:

1. ศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้งาน:
   • วิเคราะห์กลุ่มประชากรที่ใช้งาน TikTok (อายุ เพศ ความสนใจ)
   • ศึกษาช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานสูงสุด เพื่อวางแผนการโพสต์
   • สังเกตรูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (ไลค์ คอมเมนต์ แชร์)
2. ค้นหาเทรนด์และ Hashtags ยอดนิยม:
   • ติดตาม Hashtags ที่กำลังเป็นกระแสใน Discover Page
   • วิเคราะห์เพลงและ Sound Effects ที่กำลังได้รับความนิยม
   • ศึกษา Challenges ที่คนกำลังทำและมีส่วนร่วม
3. วิเคราะห์คู่แข่ง:
   • ศึกษาแบรนด์คู่แข่งที่ประสบความสำเร็จบน TikTok
   • วิเคราะห์คอนเทนต์ที่มียอดการมีส่วนร่วมสูง
   • สังเกตกลยุทธ์ Influencer Marketing ที่คู่แข่งใช้
4. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์:
   • TikTok Analytics: ศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากบัญชีของคุณเอง
   • TikTok Ads Manager: วิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณา
   • เครื่องมือ Social Listening: ติดตามการพูดถึงแบรนด์และอุตสาหกรรม
5. ทำการทดสอบ A/B Testing:
   • ทดลองรูปแบบคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน
   • ทดสอบช่วงเวลาการโพสต์ที่หลากหลาย
   • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้