Content Marketing ตัวอย่าง: กลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโตอย่างยั่งยืน

Content Marketing ตัวอย่าง: กลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจคุณเติบโต

ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางธุรกิจสูง “คอนเทนต์” กลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ เพราะคอนเทนต์ คือ สะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นบทความ วิดีโอ รูปภาพ หรือรูปแบบอื่น ๆ การทํา Content Marketing ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นทักษะสำคัญที่ธุรกิจทุกขนาดควรเรียนรู้และพัฒนา

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเรื่อง Content Marketing ตัวอย่าง ตั้งแต่ความหมาย ประเภท ไปจนถึงแนวทางการทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อย่างเหมาะสม มาดูกันว่า Content Marketing มีอะไรบ้าง และแบรนด์ต่าง ๆ ทำกันอย่างไร

Content Marketing คืออะไร?

Content Marketing ตัวอย่าง

คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง คือ กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างและแจกจ่ายเนื้อหาที่มีคุณค่า มีความเกี่ยวข้อง และสอดคล้องกัน เพื่อดึงดูดและรักษากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ให้ความรู้ และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในที่สุด

เป้าหมายของ Content Marketing ไม่ใช่แค่การขายสินค้าในทันที แต่เป็นการสร้างความสนใจในสินค้าควบคู่กับการสร้างการจดจำแบรนด์ผ่านเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่ม:

  • Traffic (การเข้าชม) – เพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์จากเครื่องมือค้นหา โซเชียลมีเดีย ลิงก์ในอีเมล หรือบทความบนเว็บไซต์
  • Sales (การขาย) – เพิ่มไม่เพียงแค่ปริมาณการเข้าชม แต่ยังเพิ่มจำนวนผู้ชมที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย (ผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า)
  • Email Subscribers (ผู้สมัครรับอีเมล) – กระตุ้นให้ผู้อ่านสมัครรับข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดการตลาดในอนาคต

ประเภทของ Content Marketing

Content Marketing มีอะไรบ้าง? มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีจุดเด่นและเหมาะกับวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้ คือ ประเภทหลัก  ๆ ของ Content Marketing:

1. Blog Content Marketing

บล็อกโพสต์เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเมื่อพูดถึง Content Marketing เพราะสร้างได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเนื้อหาไม่ยาวเกินไปและใช้รูปภาพจำนวนไม่มาก

หากทำได้อย่างถูกต้อง บล็อกโพสต์สามารถช่วยคุณ:

  • สร้างความน่าเชื่อถือในธุรกิจของคุณ
  • ได้รับการอ้างอิงจากแหล่งอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้ ซึ่งนำไปสู่การจัดอันดับการค้นหาที่ดีขึ้น (SEO)
  • มีเนื้อหาที่สามารถนำไปปรับใช้ในรูปแบบอื่นได้ เช่น อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอ

ตัวอย่างจาก Hubspot

Hubspot เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำ Content Marketing ผ่านบล็อก นอกจากการสร้างเครื่องมือการตลาดฟรี พวกเขายังใช้กลยุทธ์ Content Marketing โดย:

  • เขียนบทความเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นที่ผู้อ่านสนใจ
  • อัปเกรดเนื้อหาเป็น e-books ให้กับโพสต์ในบล็อก
  • สร้างศูนย์การเรียนรู้และแบ่งปันเนื้อหา ซึ่งดึงดูดผู้เยี่ยมชมกว่า 321,000 รายต่อเดือน

2. Social Media Content Marketing

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการสร้างการรับรู้ (Awareness) ทำให้เข้าถึงแบรนด์ได้ง่าย และสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่ช่วยให้แบรนด์ได้ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการจัดอันดับใน Search Engine (SEO) ซึ่งเพิ่มโอกาสในการขายอีกด้วย

ตัวอย่างจาก Intrepid Travel

Intrepid Travel เป็นบริษัทท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่มีศูนย์กลางคอนเทนต์ชื่อ “The Journal” ซึ่งรวบรวมเรื่องราวจากนักเดินทางจริงที่แบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา นอกจากนี้ พวกเขายังโพสต์รูปการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจบน Facebook สลับกับคอนเทนต์ของตัวเอง ส่งผลให้มีผู้ติดตามมากกว่า 600,000 คน และสร้างชุมชนที่เข้มแข็งบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

3. Visual Content Marketing

รูปภาพเป็นส่วนสำคัญของโซเชียลมีเดียที่ช่วยเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย รูปภาพในที่นี้รวมถึงภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับคอนเทนต์ของคุณ

ตัวอย่างจาก Shutterstock

Shutterstock ใช้ความเชี่ยวชาญด้านรูปภาพในการสร้างข้อมูลที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ อินโฟกราฟิกของพวกเขาดึงดูดการเข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 6 พันล้านครั้ง นอกจากนี้ Shutterstock ยังสร้างสรรค์งานที่ไม่ใช่แค่ภาพ แต่ยังรวมถึงวิดีโอและเพลงอีกด้วย

4. Video Content Marketing

การตลาดผ่านวิดีโอได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะหลังจาก TikTok เป็นกระแส ทำให้วิดีโอแนวตั้ง (Vertical Video) กลายเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์พกพา วิดีโอยังเป็นหนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้ดี

ตัวอย่างจาก Blendtec

แบรนด์เครื่องปั่น Blendtec พิสูจน์ว่าคอนเทนต์ในอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อสามารถกลายเป็นไวรัลได้ หากคุณจับจุดที่ดึงดูดผู้ชมได้ พวกเขาสร้างซีรีส์วิดีโอชื่อ “Will It Blend” ซึ่งทดสอบปั่นสิ่งของแปลก ๆ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 700% ในช่วงสามปี

5. Ebook Content Marketing

Ebooks เป็นอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างคอนเทนต์อย่างรวดเร็วและดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้ด้วย Hubspot ประสบความสำเร็จอย่างมากในการใช้ Ebook เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้อ่านและสร้างการรับรู้แบรนด์

ตัวอย่างจาก Hootsuite

Hootsuite เป็นเครื่องมือบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย พวกเขามีบทความ ข้อมูล และ Ebook จำนวนมากที่เป็นประโยชน์บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อ่านที่ต้องกรอกก่อนจะดาวน์โหลด Ebook ไปอ่าน

6. Promotional Content

คอนเทนต์โปรโมชันกระตุ้นส่งเสริมการขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแจกสินค้า แจกส่วนลด หรือโปร 1 แถม 1 โดยมีการตั้งกฎกติกาต่าง ๆ เช่น กดแชร์ หรือคอมเมนต์ เพื่อรับสิทธิพิเศษ ทำให้คุณได้ทั้งยอด Engagement ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า

7. Real Time Content

การใช้คอนเทนต์เกาะกระแสที่กำลังเป็นที่นิยม จะช่วยให้แบรนด์ดูทันสมัย ทันเหตุการณ์ และสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้ดี แต่ละแบรนด์จำเป็นต้องสร้างสรรค์เนื้อหาให้ออกมาน่าสนใจ สนุกสนาน และสัมพันธ์กับเทรนด์ฮิตในช่วงเวลานั้น คอนเทนต์ประเภทนี้สามารถเรียกยอด Engagement ได้ดีที่สุด เพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย

วัตถุประสงค์ในการทำ Content Marketing

การทำ Content Marketing มีวัตถุประสงค์หลัก ๆ 4 ประการ ดังนี้:

1. เพื่อให้ความรู้ (Educate)

คอนเทนต์ประเภทนี้มุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยเฉพาะธุรกิจที่เข้าใจยาก เช่น เทคโนโลยี การศึกษา โดยมักจะเป็นคอนเทนต์แบบ How-to หรือแก้ไข Pain point ที่ลูกค้าพบเจอ ตัวอย่างเช่น บทความวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือวิธีแก้ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้งาน

2. เพื่อให้ความบันเทิง (Entertain)

คอนเทนต์แบบนี้มุ่งสร้างความสนุกสนาน เช่น เกมชิงโชค FAQ คอนเทนต์ไวรัลเกาะกระแส ที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขเมื่อติดตาม ตัวอย่างเช่น คลิปวิดีโอตลก มีม หรือเกมสนุก ๆ บนโซเชียลมีเดีย

3. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ (Inspire)

คอนเทนต์ที่สร้างหรือเพิ่มความประทับใจของลูกค้าต่อแบรนด์ มักพบในรูปแบบการรีวิวสินค้า หรือการโปรโมทผ่าน Influencer และ KOL (Key Opinion Leader) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามอยากลองใช้สินค้าหรือบริการ

4. เพื่อโน้มน้าว (Convince)

คอนเทนต์เพื่อชักชวน เชิญชวนให้เข้ามาใช้หรือลองสินค้า/บริการ เป็นคอนเทนต์ที่มีจุดประสงค์ในการปิดการขาย เช่น การทำโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อลดขั้นตอนในการตัดสินใจของลูกค้าให้ตัดสินใจได้เร็วยิ่งขึ้น

ทำไมต้องทำ Content Marketing?

การทํา Content Marketing มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นตัวเชื่อมโยงกลยุทธ์การทำการตลาดเกือบทั้งหมด ในโลกของ Digital Marketing และ Social Media Marketing คอนเทนต์เป็นตัวกลางที่สื่อสารไปสู่กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าได้ดีที่สุด

ประโยชน์ของ Content Marketing มีดังนี้:

1. สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก (Awareness)

คอนเทนต์เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์/องค์กรกับกลุ่มเป้าหมาย การทำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ให้ความรู้บนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือคอนเทนต์ไวรัล จะช่วย:

  • ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • ทำให้สินค้า/บริการเป็นที่รู้จัก และเข้าใจถึงประโยชน์
  • สร้างความคุ้นเคยกับแบรนด์ ช่วยให้การตัดสินใจหรือเลือกแบรนด์เป็นตัวเลือกได้ง่ายขึ้น

2. ช่วยส่งเสริมการขาย

นอกเหนือจากการใช้คอนเทนต์ประชาสัมพันธ์โปรโมชัน บอกส่วนลด หรือแจ้งแคมเปญแล้ว คอนเทนต์ยังมีบทบาทสำคัญในช่วง “Pre-Sales” หรือก่อนเกิดการขาย ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เมื่อกลุ่มเป้าหมายเริ่มคุ้นเคยและติดตาม พอพบสินค้าหรือบริการของแบรนด์ ก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเพราะเกิดความไว้วางใจ

เทคนิคที่นิยมในปัจจุบัน คือ การทำคอนเทนต์รีวิวและการทำคอนเทนต์ร่วมกับ Influencer ซึ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (หรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ) ได้ดี เพราะคนเชื่อมั่นในรีวิวหรือ Influencer ที่พวกเขาคุ้นเคยและติดตามอยู่

3. ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและน่าติดตาม

การทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอและมีทิศทางชัดเจน จะช่วยให้:

  • แบรนด์กลายเป็น “Top of Mind” หรือตัวเลือกแรก ๆ ที่ผู้คนนึกถึง
  • คนอยากติดตาม (Follow) แบรนด์
  • คนเชื่อถือในแบรนด์ และตัดสินใจง่ายขึ้นเพราะเกิดความไว้วางใจ
  • แบรนด์ได้รับการกล่าวถึง มีการ Mention หรืออ้างอิงความรู้

ยิ่งแบรนด์พูดถึงเรื่องใดซ้ำ ๆ เป็นประจำ และสามารถทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ ตอบข้อสงสัยของผู้คนได้มาก แบรนด์ก็จะยิ่งได้รับความเชื่อถือและผลประโยชน์มากขึ้น

Content Marketing ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

Content Marketing ตัวอย่าง

Content Marketing ที่น่าสนใจและจะประสบความสำเร็จควรมีลักษณะดังนี้:

  1. มีความสดใหม่อยู่เสมอ – เนื้อหาต้องทันสมัย น่าสนใจ และมีความใหม่เพื่อตอบโจทย์การทำ SEO และดึงดูดความสนใจผู้อ่าน
  2. มีความสนุก – แม้เนื้อหาจะเป็นเชิงวิชาการ แต่ควรปรับให้น่าสนใจและสนุกมากขึ้น เช่น การสอดแทรกมุกตลกเข้าไปในเทคนิคการขายของออนไลน์
  3. มีคุณค่า – หัวใจหลักของการทำคอนเทนต์ คือ ต้องมีคุณค่า ถ้าคอนเทนต์ไม่มีคุณค่า ก็จะไม่มีใครสนใจ
  4. เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย – เนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถ้าขายกาแฟ ควรนำเสนอวิธีชงกาแฟให้กับกลุ่มคนที่ชอบดื่มกาแฟ ไม่ใช่นำเสนอให้กลุ่มคนที่ชอบเล่นเกม
  5. มีความสม่ำเสมอ – การผลิตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอจะส่งผลดีต่อ algorithm ของแต่ละ platform เพราะยิ่งผลิตมากและสม่ำเสมอ algorithm จะมองว่าเป็นเพจที่ Active และเพิ่มโอกาสการมองเห็น

หากคุณต้องการดูตัวอย่างการทำ Content Marketing ที่ประสบความสำเร็จเพิ่มเติม ดูเคสศึกษาระดับโลก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอนเทนต์ของคุณ

7 ขั้นตอนเริ่มทำ Content Marketing อย่างไรให้ดี

การเริ่มต้นการทํา Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพนั้นมีขั้นตอนสำคัญ 7 ขั้นตอน ดังนี้:

1. ตั้งเป้าหมาย (Goal Setting)

การตั้งเป้าหมายที่ดีควรอยู่บนหลัก SMART:

  • S – Specific หมายถึง เจาะจง เช่น มีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • M – Measurable หมายถึง สามารถวัดผลได้ เช่น จำนวนยอดวิว 10,000 ครั้ง
  • A – Attainable หมายถึง เป็นไปได้จริง เช่น มี Follower สะสม 3,000 คน
  • R – Relevant หมายถึง มีความเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาด/ธุรกิจ
  • T – Time-bound หมายถึง มีระยะเวลากำกับ เช่น มี Follower สะสม 3,000 คน ภายใน 3 เดือน

ตัวอย่างตัวชี้วัด (Metrics) ที่น่าสนใจสำหรับการวางเป้าหมายทำ Content Marketing:

  • Pageview / Page visit
  • Follower / Subscriber
  • Social Engagement (like, share, comment)
  • Mentions (การพูดถึงแบรนด์)
  • Page Ranking
  • Leads
  • Return on Investment (ROI)
  • Cost per Acquisition

2. Landscape Research

ในขั้นตอนนี้ มี 3 เรื่องสำคัญที่ต้องศึกษา:

1) เราคือใคร

ต้องรู้จักตัวเองให้ดี ว่าขายอะไร คุณค่าอยู่ที่ไหน จุดอ่อน-จุดแข็ง โอกาส-อุปสรรค และความแตกต่าง (Brand Position) อยู่ตรงไหน โดยใช้ SWOT Analysis

2) ใครคือลูกค้าของเรา

ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย คือใคร ทำ Persona เพื่อกำหนดลูกค้าหรือผู้รับสารในอุดมคติของแบรนด์ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนการสื่อสารและเลือกช่องทางที่เหมาะสม

3) ใครคือคู่แข่งของเรา

ศึกษาแบรนด์/องค์กรอื่นที่เป็นทางเลือกของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อศึกษากลยุทธ์ที่เขาใช้และนำมาพัฒนากลยุทธ์ของเรา วิธีหาคู่แข่งอาจทำได้โดยสัมภาษณ์กลุ่ม Persona หรือค้นหาใน Google และโซเชียลมีเดีย

3. Brand Voice

Brand Voice คือ น้ำเสียงและท่าทีในการสื่อสารของแบรนด์ ซึ่งรวมถึงภาษาที่ใช้พูด/เขียน สีที่ใช้ โลโก้ รูปภาพ แนวทางการตัดต่อเสียงและวิดีโอ ตลอดจนผู้พูด/ผู้เขียน

น้ำเสียงที่แบรนด์ควรเลือกใช้ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ จริงจังหรือขี้เล่นแค่ไหน เพื่อสร้าง Branding ที่แข็งแรงผ่านการใช้น้ำเสียงอย่างสม่ำเสมอ

4. Buyer Persona & Buyer Journey

เข้าใจเรื่อง “Buyer’s Journey” หรือขั้นตอนการตัดสินใจของลูกค้า ว่าเขากำลังมีปัญหาอะไร อยากเสพอะไร ต้องการอะไร เพื่อที่จะทำคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของเขา โดยใช้ Sales Funnel

Awareness – ช่วงที่คนอาจยังไม่รู้หรือเพิ่งรับรู้ว่ามีปัญหา/ความต้องการ ควรทำคอนเทนต์ให้ความรู้ที่ช่วยให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา หรือกระตุ้นความต้องการ

Consideration – ช่วงที่คนเข้าใจปัญหาแล้วและกำลังพิจารณาทางเลือก ควรทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้เขาพิจารณา (เลือกเรา) ได้ง่ายขึ้น เช่น รายละเอียดสินค้า เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

Decision – ช่วงที่คนตัดสินใจเลือกทางเลือกแล้ว ควรทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้เขาซื้อ (Deal) ได้สำเร็จ เช่น วิธีการซื้อ ช่องทางชำระ โลเคชัน

5. Content Strategy

ใช้ข้อมูลจากการทำ Landscape research, persona และความรู้เรื่อง Buyer Journey มาวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกทำคอนเทนต์ โดยอาจใช้ Content Matrix เป็นเครื่องมือช่วย

Content Matrix แบ่งออกเป็น 4 ช่องตามจุดประสงค์:

  • Entertain – คอนเทนต์เพื่อความบันเทิง
  • Inspire – คอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ
  • Educate – คอนเทนต์ให้ความรู้
  • Convince – คอนเทนต์เพื่อชักชวน

6. Content Creation

นำแผน Content Strategy มาวางแผนการผลิตคอนเทนต์ โดยกำหนด:

  • Task หรือคอนเทนต์ที่จะทำ รวมทั้งหัวข้อ
  • รายละเอียดงาน บรีฟ หรือไอเดีย
  • วันที่งานต้องเสร็จ (Due Date)
  • วันเผยแพร่ผลงาน (Publish Date)
  • ผู้รับผิดชอบ เช่น Author, Designer, Video Creator
  • แคมเปญและจุดประสงค์ของผลงาน
  • ช่องทางที่เผยแพร่ เช่น เว็บไซต์, อีเมล, Social Media, YouTube

7. Content Promotion

วางแผนการเผยแพร่หรือโปรโมตคอนเทนต์ควบคู่ไปกับแผนการผลิต ระบุว่าคอนเทนต์รูปแบบใดจะเผยแพร่ช่องทางไหน ช่วงเวลาไหน ต้องเป็น Real-time หรือไม่ โดยพิจารณาจาก Persona หรือ Audience ว่าเขาเสพคอนเทนต์และติดตามเราที่ช่องทางไหน

ตัวอย่าง Content Marketing สุดปัง จากแบรนด์ต่าง ๆ

มาดู Content Marketing ตัวอย่าง ที่ประสบความสำเร็จจากแบรนด์ชั้นนำกัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอนเทนต์ของคุณเอง:

1. GQ สลัด “ลุคคุณพ่อ” กับเสื้อผ้าที่คนรุ่นใหม่ก็ใส่เท่

GQ แบรนด์เสื้อผ้าบุรุษที่เคยมีภาพจำว่าเป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นพ่อ ได้พลิกโฉมปรับตัวรีแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ นอกจากการใช้นายแบบที่ดูเป็นวัยทำงานและวัยรุ่นมากขึ้น GQ ยังร่วมทำคอนเทนต์กับ Content Creator อย่างคุณเอ็ดดี้ (เอ็ด 7 วิ) ที่มีคนติดตามบน Facebook Page กว่า 1.1 ล้านบัญชี มาเล่าเกี่ยวกับสินค้าของ GQ ในแคมเปญ “ลดประชดร้อน” ให้ดูมีความสนุกและน่าสนใจมากขึ้น

2. HubSpot กับคอนเทนต์ความรู้ที่ช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโปรดักต์

HubSpot ผู้ให้บริการ Inbound Software ใช้เทคนิค Content Marketing โดยการสร้างบล็อกให้ความรู้ด้านการทำ Digital Marketing เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามายังแบรนด์ ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และทำให้คนเห็นประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ยังมี Resource ต่าง ๆ เช่น E-Book, Checklist, Guideline ให้ดาวน์โหลดเพื่อเก็บรายชื่อสำหรับทำการตลาดต่อไป

3. FitJunctions กับคอนเทนต์ด้านสุขภาพที่น่าติดตาม

FitJunctions บริการ Personal Training และสถาบันให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายและรักษาหุ่น ใช้เทคนิคการทำคอนเทนต์ให้เข้าถึงคนจำนวนมากและน่าติดตาม ตอบโจทย์ทั้งการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและสร้างความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ จนกลายเป็น Top of Mind ในอุตสาหกรรมการออกกำลังกาย ช่อง YouTube ของพวกเขามีผู้ติดตามกว่า 1,000,000 คน

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Content Marketing ที่น่าสนใจ จากหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้คอนเทนต์เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของพวกเขา

บริการของหยุดนิ้ว มาร์เก็ตติ้ง

หยุดนิ้ว มาร์เก็ตติ้ง เป็นบริษัท Creative Agency & Brand Consultant ที่เชี่ยวชาญในยุคดิจิทัลที่ผู้คนตัดสินใจซื้อได้เพียงปลายนิ้ว เรามุ่งเน้นการทำให้ลูกค้า “หยุดนิ้ว” เพื่อสนใจคอนเทนต์ของธุรกิจ สร้างการจดจำแบรนด์ และเพิ่มยอดขาย เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้จริงอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์

บริการของเรา:

  1. รับทำคลิปวิดีโอ – ผลิตวิดีโออย่างมืออาชีพ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีแก่ธุรกิจ
  2. บริการถ่ายภาพ – ถ่ายภาพมืออาชีพทั้งงานส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ ถ่ายทอดความทรงจำดี ๆ เป็นที่ระลึกทุกโอกาส
  3. ออกแบบเมนู – ออกแบบเมนูอาหารให้น่าสนใจและดึงดูดลูกค้า
  4. ยิงแอดโฆษณา – ใช้ประสบการณ์ของทีมการตลาดมืออาชีพ ทำให้คุณจ่ายเงินในการโฆษณาน้อยลง ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
  5. Rich Menu – ดูแล Line Official และพัฒนา Rich Menu ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่จำเป็นในปัจจุบัน ช่วยปิดการขายได้อย่างง่ายดาย
  6. Creative Content – สร้างเนื้อหาที่ครบถ้วนและน่าสนใจ ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณเกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
  7. ออกแบบโลโก้ – ออกแบบโลโก้ที่สวยงาม สร้างภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ให้แก่แบรนด์
  8. โปรโมทและรีวิว – ช่วยโปรโมทธุรกิจตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความโดดเด่น น่าติดตาม เพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ

สรุป

คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง คือ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบล็อก โซเชียลมีเดีย รูปภาพ วิดีโอ หรืออีบุ๊ก โดยต้องมีเป้าหมายชัดเจน ทั้งให้ความรู้ สร้างความบันเทิง หรือโน้มน้าวใจ

การทำคอนเทนต์ที่ดีต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า และทำอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นคุณจะเห็นผลลัพธ์ทั้งในแง่การสร้างแบรนด์ เพิ่มยอดขาย และสร้างความน่าเชื่อถือ

คำถามที่พบบ่อย

เทคนิคการทํา Content Marketing มีอะไรบ้าง?

  1. รู้จักแบรนด์ รู้จักสินค้า รู้จักคนซื้อ เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
  2. แตกไอเดียออกมาเยอะ ๆ ไม่ต้องกลัวคิดผิด บันทึกไอเดียทั้งหมดไว้พิจารณา
  3. เลือกรูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะกับไอเดีย ทั้งบล็อก วิดีโอ โซเชียล หรืออินโฟกราฟิก
  4. พาดหัวกระชับ ตรงประเด็น ไม่ต้องมีอะไรเยอะ แต่ดึงดูดและทำให้คนอยากอ่านต่อ
  5. เขียนเนื้อหา ให้สอดคล้องกับไอเดีย มีประโยชน์และคุณค่าต่อผู้อ่าน
  6. มีปุ่ม CTA เตือนใจให้คนคลิก เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจซื้อหรือติดต่อ

คอนเทนต์ดึงดูดลูกค้า คืออะไร?

คอนเทนต์ดึงดูดลูกค้า คือ คอนเทนต์ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ สิทธิพิเศษ โปรโมชัน หรือเนื้อหาที่ใช้กระตุ้นอารมณ์ “สินค้ามีจำนวนจำกัด” การใช้เรื่องราวที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกของลูกค้า จะช่วยให้เพิ่มความสัมพันธ์และความเชื่อมั่น ในสินค้าแบรนด์นั้น ได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของ E-Marketing คืออะไร?

สื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง ช่วยให้ทราบความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ง่ายกว่า สามารถแยกกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน สามารถวางแผนทางการตลาดเฉพาะกลุ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายได้ง่าย

Share :

Scroll to Top
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.